แต่งห้องทำงานให้มีแรงบันดาลใจ สวยหรูดูมืออาชีพ น่านั่งตลอดวัน

แต่งห้องทำงานให้ดูน่านั่งตลอดวัน

ห้องทำงาน ไม่ใช่เพียงพื้นที่สำหรับการทำงานเท่านั้น แต่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพอย่างแท้จริง เป็นพื้นไม้ที่ที่จุดประกายไอเดียระดับล้าน และเป็นฉากหลังของการจบดีลสำคัญที่เปลี่ยนอนาคตของคุณ

การตกแต่งห้องทำงานจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของฟังก์ชัน แต่คือการสะท้อน “ตัวตน ความมั่นคง และรสนิยม” ได้อย่างลึกซึ้ง เมื่อสไตล์ ความรู้สึก และความเป็นตัวเองมาผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ทำให้พื้นที่แห่งนี้จึงเปล่งประกายเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและรสนิยมที่เหนือระดับอย่างแท้จริง

รวมไอเดียในการตกแต่งห้องทำงาน

แต่งห้องทำงานในสไตล์ Luxury

ห้องทำงานทั่วไปมักมีแค่โต๊ะ เก้าอี้ และโน้ตบุ๊ก มองดูเรียบง่ายและน่าเบื่อ มีเพียงความจำเจที่ทำให้ทุกวันของการทำงานดูเหมือนกันไปหมด การแต่งห้องทำงานในสไตล์ Luxury ช่วยให้เกิดแรงบันดาลใจในการทำงาน ให้ความรู้สึกหรูหรา และทรงพลัง สำหรับใครที่อยากตกแต่งห้องทำงานให้มีรสนิยมอย่างมีระดับ เรามีคำแนะนำดังต่อไปนี้

วางโต๊ะทำงานไว้ริมกระจกบานใหญ่

แต่งห้องทำงานใกล้ริมกระจกเพื่อรับแสงธรรมชาติ เพิ่มพลังชีวิต กระตุ้น สมองให้ตื่นตัว เพิ่มความสดชื่น และช่วยให้โฟกัสกับงานได้ดีขึ้น เปลี่ยนบรรยากาศเดิม ๆ ทำให้ห้องดูสง่างามและมีชีวิตชีวา

แต่งห้องทำงานให้ทรงพลัง โดยวางโต๊ะทำงานไว้ริมกระจก

เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่มีคุณภาพ

  • โต๊ะทำงาน

การจัดห้องทำงานให้ดูหรูหราและเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ควรเริ่มต้นจากการเลือกโต๊ะทำงานที่เหมาะสม เพราะโต๊ะทำงานคุณภาพ ไม่ใช่เพียงแค่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่ง แต่คือศูนย์กลางของแรงบันดาลใจและความสำเร็จในแต่ละวัน

แนะนำให้เลือก โต๊ะทำงานดีไซน์เรียบหรู ร่วมสมัย ที่สะท้อนรสนิยมอันละเมียดละไม คัดสรรจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น วีเนียร์ไม้ธรรมชาติ หรือหินอ่อน เพื่อเติมเต็มบรรยากาศให้สง่างามอย่างมีระดับ โต๊ะควรมีขนาดพอดีกับสัดส่วนของห้องไม่เล็กจนอึดอัด และไม่ใหญ่เกินความจำเป็น

สำหรับโทนสี ควรเลือกสีที่ให้ความรู้สึกสงบและมีระดับ เช่น เทา เบจ ครีม ดำด้าน หรือเขียวเข้ม นอกจากความสวยงามภายนอกแล้ว ควรมาพร้อมฟังก์ชันการจัดเก็บที่ชาญฉลาด เพื่อให้ทุกสิ่งบนโต๊ะดูเป็นระเบียบ เรียบร้อย และพร้อมสำหรับแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในทุกวันทำงาน

หรือถ้าคุณต้องการแต่งห้องทำงานให้ดูดีมีระดับภาพลักษณ์ในแบบมืออาชีพ ควรเลือกโต๊ะทำงานที่สามารถปรับระดับได้ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ชาญฉลาด ช่วยให้สามารถสลับท่าทางระหว่างนั่งและยืน ช่วยดูแลทั้งสุขภาพและสมาธิได้ในระยะยาว

  • เก้าอี้

เก้าอี้ทำงานไม่ใช่เพียงแค่ที่นั่ง แต่คือ พาร์ตเนอร์คนสำคัญ ที่ช่วยให้คุณโฟกัสกับงานได้อย่างยาวนาน มีประสิทธิภาพ และไม่รู้สึกเหนื่อยล้า การเลือกเก้าอี้ให้เหมาะกับห้องทำงาน ควรพิจารณาโครงสร้างที่ รองรับสรีระอย่างถูกต้องในทุกมิติ โดยเฉพาะบริเวณเอวและหลังส่วนล่าง ซึ่งเป็นจุดที่ต้องรองรับแรงกดทับตลอดการนั่งทำงาน

พื้นผิวสัมผัสควรให้ความรู้สึกนุ่มนวลแบบ Soft Touch แต่ห่อหุ้มด้วยวัสดุที่หรูหรา เช่น หนังคุณภาพสูง ผ้าเนื้อแน่น หรือกำมะหยี่เนื้อนุ่ม ซึ่งไม่เพียงแต่ดูดี แต่ยังช่วยเพิ่มความสบายขณะนั่งทำงานอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้อย่าลืมคำนึงถึงระบบระบายอากาศที่ดี ลดการสะสมความร้อน เพื่อให้คุณสามารถทำงานได้อย่างยาวนานโดยไม่รู้สึกอึดอัดหรือเมื่อยล้า

  • ชั้นวางหนังสือและเอกสาร 

ชั้นวางหนังสือและเอกสาร คือหัวใจของการจัดเก็บที่มีระบบ ทั้งยังเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยยกระดับความสวยงามโดยรวมของห้อง แนะนำให้เลือกชั้นวางที่สามารถปรับเปลี่ยนหรือขยายได้ตามขนาดห้อง เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการใช้งาน โดยไม่ทำให้พื้นผนังไม้วีเนียร์ที่ดูแน่นหรืออึดอัด

ชั้นวางไม้บิ้วอินแบบเรียบง่าย เข้ากับงานไม้หรือธีมของห้อง โดยอาจเลือกเป็นโทนไม้ธรรมชาติที่กลมกลืนกับบิ้วอิน เพิ่มลูกเล่นด้วยแผงตกแต่งหรือเส้นสายแนวนอนแนวตั้งที่เรียบง่าย ซึ่งช่วยให้บรรยากาศดูสงบ สุขุม และมีระดับในแบบฉบับของผู้บริหาร

นอกจากนี้แนะนำให้ติดตั้งระบบไฟไว้บนฝ้าเพดาน หรือชั้นวางหนังสือ สามารถสร้างมิติและเลเยอร์ของแสงที่ช่วยขับเน้นผิวสัมผัสของวัสดุให้ห้องดู อบอุ่น หรูหรา และสง่างาม ยิ่งขึ้น

แต่งห้องทำงานให้ทรงพลัง โดยวางโต๊ะทำงานไว้ริมกระจก

  • กล่องเก็บเอกสารและอุปกรณ์สำนักงาน

การจัดเก็บอย่างมีระบบ คือหัวใจสำคัญของห้องทำงานที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและแรงบันดาลใจ

การมีกล่องเก็บเอกสารหรืออุปกรณ์สำนักงานที่ออกแบบมาอย่างมีสไตล์ ไม่เพียงช่วยให้พื้นที่ดูสะอาดเรียบร้อย แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อ สมาธิ ความคิดสร้างสรรค์ และความลื่นไหลในการทำงาน

วิธีการเลือกกล่องเก็บเอกสารให้เหมาะกับห้องทำงาน แนะนำให้เลือกดีไซน์ของกล่องหรืออุปกรณ์จัดเก็บควรสอดคล้องกับโทนของห้อง เช่น โทนสี เอิร์ธโทน ดำด้าน หรือไม้ธรรมชาติ เพื่อเสริมภาพลักษณ์ที่เรียบหรู มีระเบียบ และดูเป็นมืออาชีพ

เลือกโทนสีให้เหมาะกับสไตล์

โทนสีในห้องทำงานก็มีผลอย่างมากต่อบรรยากาศ อารมณ์ และประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งสีที่เหมาะสำหรับห้องทำงานสวย ๆ มีดังนี้

  • เทาอ่อน / เทาเข้ม 

ให้ความรู้สึกหรูหรา สุขุม ช่วยให้ห้องดูมีระดับ ไม่รบกวนสายตา จึงเหมาะกับสไตล์ Modern Luxury หรือ Minimal Elegance

  • น้ำเงินกรมท่า / น้ำเงินเข้ม

ให้ความรู้สึกนิ่ง มั่นคง ฉลาดลุ่มลึก เสริมภาพลักษณ์มืออาชีพ จึงเหมาะกับห้องทำงานผู้บริหาร หรือผู้ที่ต้องการโฟกัสสูง

  • เบจ / ครีม / น้ำตาลอ่อน

โทนอบอุ่น ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง และลดความตึงเครียด จึงเหมาะกับการจับคู่ไม้ธรรมชาติ วิเนียร์ หรือเฟอร์นิเจอร์โทนทอง

  • ขาวงาช้าง / ขาวนวล 

ทำให้ห้องดูกว้าง สะอาด สบายตา เหมาะสำหรับห้องทำงานที่ต้องการให้ของตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์โดดเด่น นิยมในห้องทำงานแนว Minimal, Modern, Japandi

  • เขียวมะกอก / เขียวเทา

ให้ความรู้สึกสงบ สัมผัสธรรมชาติ ส่งเสริมสมาธิและความคิดสร้างสรรค์ สีโทนนี้แมตช์ได้ดีมากกับไม้สีเข้มหรือทองเหลือง

แสงไฟเสริมบรรยากาศ

การใช้แสงไฟ Warm white ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและอบอุ่น เหมือนแสงจากโคมไฟโรงแรมระดับ 5 ดาว

เมื่อแสงตกกระทบกับเฟอร์นิเจอร์วัสดุโลหะ หรือทองเหลือง ให้ Texture ที่โดดเด่นยิ่งขึ้น จึงเหมาะอย่างยิ่งกับสไตล์ Modern Luxury, Classic Contemporary หรือ Japandi

ของตกแต่งดีไซน์หรูหรา

ไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างห้องก็สามารถแต่งห้องทำงานได้ง่าย ๆ แค่เพิ่มของตกแต่งที่มีวัสดุพรีเมียม ได้แก่

  • โคมไฟ

ห้องทำงานธรรมดาก็สามารถดูหรูขึ้นแบบไม่ต้องพยายามมาก เพียงใช้แสงไฟจากโคมไฟระย้าหรือโคมแขวนดีไซน์โมเดิร์น-คลาสสิกที่มีคริสตัลตัดกับโครงทอง เป็นของตกแต่งที่บ่งบอกรสนิยมระดับไฮคลาส

หรือจะเลือกโคมไฟตั้งโต๊ะก็สามารถเสริมบรรยากาศให้ห้องทำงานดูสง่างาม และยังช่วยลดความเมื่อยล้าจากการเพ่งหน้าจอหรืออ่านเอกสารเป็นเวลานาน ทำให้ดวงตารู้สึกผ่อนคลาย เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และสามารถโฟกัสงานได้ดีขึ้น

การเลือกโคมไฟสำหรับห้องทำงานควรเลือกดีไซน์ที่เรียบหรู วัสดุคุณภาพ เช่น ทองเหลืองรมดำ โลหะเคลือบเงา หรือฐานหินอ่อน

  • แจกันดอกไม้

ห้องทำงานจะไม่ดูแข็งทื่ออีกต่อไป เพียงหาแจกันดอกไม้สวย ๆ ทรงเรียบหรูมาประดับบนโต๊ะมุมหนึ่ง แนะนำให้เป็นแจกันที่ทำมาจากเซรามิก, หิน, หรือแก้วตัดเหลี่ยม

สำหรับดอกไม้ที่เหมาะกับการแต่งห้องทำงาน ได้แก่ กล้วยไม้ (Orchid), ไฮเดรนเยีย (Hydrangea), กุหลาบ (Rose), ทิวลิป (Tulip), ลิลลี่ (Lily), ดอกยิปโซ (Gypsophila) หรือคาเนชั่น (Carnation)

  • ต้นไม้ตกแต่ง

การนำต้นไม้ตกแต่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของห้องทำงาน ไม่เพียงเป็นการเพิ่มความสวยงามให้กับพื้นที่ ยังช่วยลดความตึงเครียดสร้างความผ่อนคลาย และกระตุ้นสมาธิให้คงอยู่ได้ยาวนานตลอดวัน

ต้นไม้ที่เหมาะสำหรับแต่งห้องทำงานแนะนำให้เลือกเป็นเฟิร์นบอสตัน (Boston Fern), ยางอินเดีย (Rubber Plant), ซานาดู (Philodendron Xanadu) หรือมอนสเตอร่า (Monstera Deliciosa)

เพียงวางต้นไม้ในกระถางดีไซน์หรูไว้บนโต๊ะ ข้างชั้นหนังสือ หรือมุมห้อง ก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศให้ห้องทำงานดูอบอุ่น เป็นธรรมชาติ และเป็นมิตรมากขึ้น พื้นที่ที่เคยเคร่งขรึมจะดูมีชีวิตชีวา นอกจากนี้ต้นไม้ยังช่วยกรองอากาศ เพิ่มออกซิเจน และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงาน

  • ก้านไม้หอม

เป็นไอเทมที่ช่วยเพิ่มสมาธิ เพิ่มพลังงานในขณะทำงาน ลดความตึงเครียด และความกดดันจากงาน โดยเฉพาะกลิ่นแนวลาเวนเดอร์ ไม้ซีดาร์ หรือกลิ่นชาสมุนไพรที่ช่วยปรับอารมณ์ให้สงบแต่ไม่ง่วง

หรือใครที่อยากดูหรูหรามีระดับแนะนำเป็นกลิ่น White Tea + Jasmine หรือ Amber + Musk ให้ความรู้สึกหรูแบบสะอาด นุ่ม ละมุน สบายจมูก เหมาะกับผู้ที่ชอบบรรยากาศห้องทำงานแบบเรียบหรู สไตล์ Modern luxury หรือ Minimal

หากวันไหนอยากรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า แนะนำเป็นกลิ่น Green Tea + Lemongrass เหมาะสำหรับบรรยากาศการทำงานในตอนเช้า หรือห้องที่ไม่มีหน้าต่างมาก

นอกจากก้านไม้หอมจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายให้กับห้องทำงานแล้ว ขวดก้านไม้หอมดีไซน์ขวดสวย ๆ เช่น สีชา ดำด้าน หรือแก้วใสทรงโมเดิร์น ยังเสริมภาพลักษณ์ห้องให้ดูหรู เรียบ คลีน และมีคลาส ไม่ต่างจากเฟอร์นิเจอร์หรูชิ้นเล็ก ๆ อีกทั้งเสริมความประทับใจเมื่อต้องรับแขกหรือประชุม

  • งานศิลปะ

การติดภาพศิลปะในห้องทำงาน เพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ ทำให้ห้องไม่ดูแบนหรือน่าเบื่อ แนะนำให้เป็นภาพแคนวาสลายแอ็บสแตรกต์ขนาดใหญ่ในกรอบทอง/ดำ หรือภาพขาวดำติดผนังเรียบๆ ก็สามารถดูโมเดิร์นและแพงได้ สะท้อนรสนิยม ความพิถีพิถัน และความเป็นมืออาชีพ

  • ของตกแต่งอื่น ๆ

นอกจากที่กล่าวมาข้างต้น การแต่งห้องทำงานให้ดูหรูหราอย่างมีศิลปะแนะนำให้หาหนังสือปกแข็ง, นาฬิกาตั้งโต๊ะ, นาฬิกาทราย หรือกระจกเงาทรงเรขาคณิตมาตกแต่ง ไม่เพียงทำให้พื้นไม้อิตาลีที่ดูดี แต่ยังช่วยจุดประกายความคิด ทำให้ห้องมีมิติและแสงสะท้อน

ผนังไม้สัมผัสพรีเมียม

ตกแต่งห้องทำงานด้วยผนังไม้อิตาลีให้ลวดลายที่ไม่ซ้ำใคร มีมิติ คลาสสิค แต่ยังคงความหรูในดีไซน์ที่ร่วมสมัย ผิวสัมผัสธรรมชาติและนุ่มนวล

แต่งห้องทำงานด้วยผนังไม้สัมผัสพรีเมียม

ปูพื้นด้วยวัสดุหรูหรา คุณภาพดี

แต่งห้องทำงานให้มีคลาสแนะนำให้ปูพื้นด้วยพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ หรือ พื้นไม้ MGO เนื่องจากไม้ประเภทนี้สามารถทนชื้น ทนรอยต่อขีดข่วนได้ดีกว่าไม้จริงในหลายรุ่น พื้นผิวเป็นไม้แท้ (Top Layer) จึงให้ความรู้สึกอบอุ่น ลายไม้สวยงามเป็นธรรมชาติ สัมผัสดี อีกทั้งยังดูหรูหรากว่าลามิเนตชัดเจน จึงเหมาะกับห้องทำงานสไตล์ Modern Classic, Modern Luxury, Japandi

เน้นความกว้างขวาง โปร่งโล่ง

ออกแบบห้องทำงานให้โอ่โถงกว้างขวาง โดยทำให้พื้นที่ดูโปร่งโล่งหรือใช้หน้าต่างบานใหญ่ เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติ ให้ความรู้สึกมีอิสระมากขึ้น ช่วยให้พื้นที่ดูสว่างสดใส แลดูไม่คับแคบ

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับทริคแต่งห้องทำงานที่เราเอามาฝากในวันนี้ หวังว่าจะถูกใจกันนะคะ สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะแต่งห้องทำงานอย่างไรดี ต้องการคำปรึกษา Mobel Bangkok เรามีแพ็กเกจหลากหลายให้เลือกเพื่อตอบโจทย์ความชอบและงบประมาณของลูกค้า

หากคุณสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรืออยากชมสินค้าจริง สามารถติดต่อเราได้ที่
Instagram:@mobel_bangkok  ( https://www.instagram.com/mobel_bangkok/ )
LINE Official:@mobelbangkokhttps://lin.ee/4Gp8Pc2 )

SCROLL UP